น้ำตบ คือนวัตกรรมบำรุงผิวที่มาแรงมากเมื่อหลายปีที่ผ่านมาและยังคงเป็นที่นิยมต่อเนื่อง สกินแคร์ชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า และใช้ได้กับทุกสภาพผิว วิธีใช้น้ำตบทำได้ง่าย แค่ใช้ปลายนิ้วมือตบเบา ๆ ที่ผิวหน้าจึงไม่ต้องแปลกใจที่ผลิตภัณฑ์นี้ถูกเรียกว่าน้ำตบ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้ ลองมาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ดูว่ามีดีอย่างไร
น้ำตบ คืออะไร ใช้แล้วหน้าใสจริงหรือ?
น้ำตบเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวหน้าใสขึ้น เพราะเนื้อสัมผัสอยู่ในรูปของน้ำ หรือกึ่งน้ำ จึงบำรุงผิวได้ล้ำลึกคล้ายกับเอสเซ้นส์ สกินแคร์ชนิดนี้ถูกพัฒนาออกมาในรูปแบบของน้ำเนื่องจากว่าน้ำเป็นสิ่งที่มีโมเลกุลเล็กจึงสามารถซึมเข้าสู่ผิวชั้นในได้ดี น้ำตบที่มีจำหน่ายทั่วไปในปัจจุบันจะมีทั้งแบบใสและขุ่น ทั้งสองแบบให้ผลเหมือนกันคือซึมได้เร็ว ทำให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น ผิวแลดูสดใส
น้ำตบ คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มากด้วยคุณประโยชน์
ประโยชน์ของน้ำตบมีมากมายแตกต่างกันไปตามส่วนผสม แต่โดยพื้นฐานสำคัญ ส่วนประกอบหลักที่มีอยู่ในน้ำตบคือแร่ธาตุที่มีคุณค่าต่อผิวใน 3 เรื่องสำคัญ คือ
ช่วยผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ ขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ผิวหน้าจึงดูกระจ่างใสขึ้น
เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเอิบอิ่ม เปล่งประกาย และช่วยกระชับผิวให้เนียน
เสริมประสิทธิภาพในการดูแลผิวให้สมบูรณ์แบบ เพราะน้ำตบคือตัวกระตุ้นให้ผิวเปิดรับการบำรุงอย่างเต็มที่
น้ำตบ คือสกินแคร์ที่มีหลายประเภทให้เลือกใช้
น้ำตบ มีหลายประเภท แบ่งตามความเข้มข้นของเนื้อสัมผัสเริ่มจากเนื้อบางที่สุด ได้แก่
น้ำตบเนื้อโทนเนอร์ ลักษณะใสใกล้เคียงน้ำเปล่า ดูเหมือนไม่มีส่วนประกอบอะไรเพราะใสมากแต่มีแร่ธาตุบำรุงผิวอยู่มาก
น้ำตบเนื้อเอสเซ้นส์ มีความขุ่นเล็กน้อย เข้มข้นพอสมควรแต่ก็ยังคงความเนื้อเบาและซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย
น้ำตบเนื้อโลชั่น เข้มข้นมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง เป็นแบบกึ่งเหลวกึ่งข้น แต่ก็ไม่ถึงกับเหนอะหนะ
ผลลัพธ์ที่ดีของการใช้น้ำตบ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ได้เลือกประเภทของน้ำตบให้เหมาะกับสภาพผิวหรือไม่ เพราะผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ดังนั้นก่อนซื้อใช้ควรพิจารณาประเภทของผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับผิว นอกจากนี้ยังต้องพิจารณา วิธีใช้น้ำตบ แต่ละประเภทด้วยว่าควรใช้อย่างไรไม่ให้เสียของ ซึ่งจะมีรายละเอียดในตอนท้ายของบทความ
เลือกน้ำตบอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว
น้ำตบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกประเภทของน้ำตบให้เหมาะกับผิวแต่ละแบบ ดังนี้
ผิวแห้ง ควรเลือกน้ำตบเนื้อเอสเซ้นส์ หรือเนื้อโลชั่นเข้มข้น เพราะผิวแห้งเป็นผิวขาดน้ำ สามารถจัดเต็มความเข้มข้นให้ซึมลึกลงสู่ใต้ผิว หลังจากใช้แล้วลองจับผิวดูจะพบว่ามีความนุ่มแต่ไม่เหนียวเหนอะ
ผิวมัน เลือกน้ำตบเนื้อโทนเนอร์ใสแบบน้ำเพื่อไม่ให้หน้ามันมากกว่าเดิม และไม่เกิดการอุดตันรูขุมขน ลดการเกิดสิวได้
ผิวผสม สามารถเลือกใช้เนื้อโลชั่น หรือแบบโทนเนอร์ได้ทั้งสองอย่าง
ผิวแพ้ง่าย เลือกน้ำตบแบบโทนเนอร์ใสจะมีความปลอดภัยกว่า และก่อนตัดสินใจเลือกควรตรวจเช็คดูรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสมอีกครั้งว่ามีส่วนใดที่อาจก่ออาการแพ้ได้หรือไม่
ผิวธรรมดาทั่วไป ใช้ได้ทุกแบบ
นอกจากนี้ การเลือกประเภทน้ำตบยังต้องคำนึงถึงปัญหาของผิวที่เป็นอยู่ด้วยว่า ผิวมีปัญหาอะไรหรือไม่ เช่น ปัญหาริ้วรอย ปัญหาเรื่องสิวฝ้า การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จะต้องลงลึกรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนผสมเพิ่มเติมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด
วิธีใช้น้ำตบ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
ถ้าใครได้เคยลองใช้แล้วจะรู้ว่าข้อดีของ น้ำตบใช้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลานาน อีกทั้งยังสามารถพกติดตัวเวลาออกไปข้างนอกเพื่อนำมาใช้เพิ่มความสดชื่นระหว่างวันเช่นเดียวกับน้ำแร่ได้อีกด้วย สำหรับขั้นตอนการใช้น้ำตบให้ได้ผลดีที่สุดก็คือใช้หลังจากล้างหน้าเพราะรูขุมขนกำลังเปิดรับบำรุงผิวอย่างไวและลึกล้ำ
ขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง
เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวหน้า ถ้าใช้เครื่องสำอางกันน้ำ ควรใช้คลีนซิ่งก่อนที่จะล้างด้วยโฟม หรือเจล และน้ำสะอาด
วอร์มมือให้อุ่น เป็นวิธีใช้น้ำตบที่ได้ผลมากเพราะความอุ่นของฝ่ามือเป็นตัวช่วยผลักน้ำตบให้เข้าสู่ชั้นผิวได้เร็วขึ้น จากนั้นเทน้ำตบลงบนฝ่ามือทั้งสองแล้วตบฝามือให้เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์กระจายตัวก่อนนำไปตบเบา ๆ บนผิวหน้า ถ้าเป็นน้ำตบแบบสเปรย์ สามารถฉีดบนผิวหน้าได้โดยตรงแล้วใช้มือตบผิวในวิธีเดียวกัน
ทาครีมบำรุง หรือมอยเจอไรเซอร์ทับอีกครั้ง ถ้าต้องการให้หน้าใสกระจ่างมากขึ้น เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเพิ่มเติม
หลังจากเสร็จสิ้นทั้ง 3 ขั้นตอนแล้ว สามารถแต่งหน้าเพิ่มเติมสีสันก็ตามขั้นตอนของการเมคอัพต่อไปได้เลย สำหรับขั้นตอนที่กล่าวมานี้ควรทำอีกครั้งในตอนกลางคืนก่อนเข้านอนเพื่อให้ผิวได้พักผ่อนและฟื้นฟูอย่างเต็มอิ่ม แล้วคุณจะตื่นมาพร้อมกับผิวหน้าที่สวยสดใสในทุก ๆ เช้า
Comments