มอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยเรื่องอะไร เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวหน้า

"มอยส์เจอไรเซอร์" หนึ่งในสกินแคร์ที่ได้ยินกันบ่อย ๆ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามอยส์เจอไรเซอร์คืออะไร สำคัญยังไง และต้องเลือกมอยส์เจอไรเซอร์แบบไหนให้เหมาะกับผิวดี? ในบทความนี้พาเพลินจะพาสาว ๆ ทุกคนมารู้จักมอยส์เจอไรเซอร์ให้มากยิ่งขึ้นไปด้วยกัน

มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) คืออะไร?

มอยเจอร์ไรเซอร์ คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน ปกป้องผิวจากการขาดน้ำ และรักษาความยืดหยุ่นให้ผิวของเรานั้นดูอ่อนเยาว์ แลดูสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ ลดเลือนริ้วรอย และปรับสภาพผิวก่อนลงเครื่องสำอาง ช่วยให้การแต่งหน้าของเราติดทนและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าใครอยากให้หน้าสวย เครื่องสำอางไม่หลุดง่าย อย่าลืมทามอยเจอร์ไรเซอร์ก่อนแต่งหน้าล่ะ

ส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์

มอยเจอร์ไรเซอร์แต่ละตัวมีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละยี่ห้อต้องการเน้นคุณสมบัติด้านไหน แต่ส่วนผสมสำคัญที่เรามักจะเห็นอยู่บ่อย ๆ ก็คงไม่พ้นพวกสารเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวหน้า และสารต่อต้านอนูมูลอิสระต่าง ๆ ที่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญของมอยเจอร์ไรเซอร์

เอาเป็นว่าถ้าสาว ๆ คนไหนจะมองหามอยเจอร์ไรเซอร์มาใช้สักตัว พาเพลินแนะนำว่าควรพิจารณา 6 สารสำคัญที่ควรมีในมอยเจอร์ไรเซอร์ดังต่อไปนี้

1. Glycerin กลีเซอรีน ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวไม่แห้งและล็อคความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวหนังได้นาน ปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และยืดหยุ่น

2. Hyaluronic Acid กรดไฮยาลูรอนิก ตัวช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวหนังโดยเฉพาะผิวแห้งและผิวขาดน้ำ ลดริ้วรอยและความหมองคล้ำ

3. Ceramide เซราไมด์ ปกป้องผิวและป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดปัญหาผิวลอกเป็นขุยและลดการเกิดเม็ดสีผิว

4. Vitamin C สารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีที่ช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำ ปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น ลดรอยจุดด่างดำ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

5. Salicylic Acid หรือ BHA เป็นส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมันบนผิว ให้ผิวหน้ากระชับ รูขุมขนให้เล็กลง ลดการเกิดสิว

6. Niacinamide ไนอาซินาไมด์ ทำหน้าที่ปลอบประโลมผิวจากอาการแพ้ต่างๆ และเสริมเกราะป้องกันผิว ช่วยปรับสมดุลการสร้างน้ำมันในผิว ลดการเกิดสิวและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

ประเภทของ มอยเจอร์ไรเซอร์

มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เราใช้ ๆ กันอยู่ทุกวันนี้มีหลายเนื้อสัมผัสมาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อครีม เนื้อโลชั่น เนื้ออิมัลชั่น เนื้อเจล หรือว่าเนื้อเซรั่ม แน่นอนว่า texture เหล่านี้ให้คุณสมบัติและเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันไป

มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อครีม

มีความเข้มข้นสูง ทำให้ซึมผ่านผิวนานกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์ชนิดอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็ให้ความชุ่มชื่นสูงและเก็บความชุ่มชื่นในผิวได้นาน เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ผิวแห้งมาก ๆ หรือต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ

มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อโลชั่น

เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นน้อยกว่าเนื้อครีม แต่ยังคงความชุ่มชื้นได้ดี เหมาะสมกับสาว ๆ ผิวธรรมดา ไปจนถึงผิวมัน

มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้ออิมัลชัน

เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีลักษณะเหลวแต่หนักกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อโลชั่น เหมาะสำหรับสาว ๆ ผิวแห้งและผิวธรรมดา

มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเจล

เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อเจลบางเบา เย็นสบายผิว ไม่เหนี่ยวแหนอะหนะ ซึมซับเข้าสู่ผิวได้เร็วกว่ามอยเจอไรเซอร์ชนิดอื่น ๆ เพราะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เหมาะสำหรับสาว ๆ ผิวบอบบาง แพ้ง่าย

มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเซรั่ม

มีความเข้มข้นสูง มีลักษณะเป็นของเหลวเนื้อน้ำ, น้ำมัน, หรือเจลใส เหมาะสำหรับผิวทุกประเภทที่ต้องการบำรุงอย่างล้ำลึก

จะเห็นว่าการเลือกประเภทของมอยเจอร์ไรเซอร์นั้นควรพิจารณาจากสภาพผิวและความต้องการของตัวเราเอง เช่น ผิวแห้งจะเหมาะกับมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อครีมที่มีความเข้มข้นสูง ในขณะที่ผิวมันอาจเหมาะกับมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อโลชั่นหรือเนื้อเจลที่บางเบา ควรทดลองใช้และดูผลลัพธ์ว่าแบบไหนที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด

วิธีเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ ที่เหมาะกับผิวหน้าของเรา

สาว ๆ รู้ไหมว่าการเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า สามารถช่วยให้เรามีสุขภาพผิวที่ดีได้ โดยหลัก ๆ แล้วควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม สารกระตุ้นการแพ้ หรือสารก่อการระคายเคือง และไม่ก่อให้เกิดสิว ส่วนการเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวนั้น สามารถแยกประเภทของผิวหน้าได้ดังนี้

มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวปกติ (Normal Skin)

สาวเจ้าของผิวที่ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป สามารถใช้มอยส์เจอไรเซอร์ฐานน้ำ (Water-based moisturizer) ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบโลชั่น เพื่อที่จะได้รู้สึกแห้งเร็ว เบาสบายผิว ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ หรือหากต้องการความชุ่มชื้นมาก ๆ ก็สามารถใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เป็นฐานน้ำมันได้ (Oil-based moisturizer) แต่เวลาที่ใช้อาจปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศ

มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวแห้ง (Dry Skin)

สาว ๆ คนไหนที่ผิวแห้งขาดน้ำ แนะนำให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ฐานน้ำมัน (Oil-based moisturizer) เพื่อให้น้ำมันเคลือบผิวไม่ให้ความชื้นจากผิวระเหยออกไป เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทเนื้อครีมที่ความเข้มข้นมากกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์ของผิวประเภทอื่นเล็กน้อยในการคงความชุ่มชื้นบนผิวหน้า ช่วยกักเก็บและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวมัน (Oily Skin)

สาว ๆ ที่มีผิวหน้ามัน เพราะร่างกายผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากกว่าปกติ ควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีความมันน้อย เนื้อบางเบา หรือเนื้อครีมประเภทที่แห้งเร็ว ซึมเข้าสู่ผิวง่าย แนะนำให้ใช้จะเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำ (Water-based moisturizer) อาจอยู่ในรูปแบบโลชั่นเหลว และควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบเป็นสารที่เป็นน้ำมัน

มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวผสม (Combination Skin)

ส่วนสาว ๆ ที่มีผิวหน้าผสมหรือผิวบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง (T-Zone) มันกว่าส่วนอื่นควรเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำกับน้ำมันในอัตราส่วนเท่ากัน อาจจะเป็นเนื้อโลชั่นกึ่งครีม เพื่อให้ผิวรับส่วนผสมทั้งสองอย่างอย่างเท่ากัน จะทำให้ผิวคงสมดุลของน้ำไว้ในผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป

วิธีการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน ให้ได้ผลดี ?

หลังจากที่สาว ๆ รู้แล้วว่าต้องเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์แบบไหนจึงจะเหมาะกับสภาพผิวหน้าของตนเอง ต่อไปก็จะมาดูกันว่าเราจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ยังไง ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดกันต่อ

ลงมอยซ์เจอไรเซอร์ภายใน 3 นาที

การทามอยเจอร์ไรเซอร์สามารถใช้ทาได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน แนะนำว่าให้ทาหลังล้างหน้าภายใน 3 นาที เพราะความชุ่มชื้นในผิวยังเหลืออยู่ เมื่อเราทามอยเจอร์ไรเซอร์ลงไปจะทำให้ซึมเข้าผิวได้ดีกว่าตอนผิวแห้ง ขณะเดียวกันก็ไม่ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์หลังล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ เพราะผิวยังคงมีน้ำหลงเหลืออยู่ ทำให้เมื่อทาลงไปเนื้อสกินแคร์จะซึมลงผิวได้ไม่ดีนั่นเอง

ใช้นิ้วกลางหรือนิ้วนาง ในการลงมอยซ์เจอไรเซอร์

เหตุผลที่ต้องเป็นนิ้วกลางนั่นก็เพราะเป็นนิ้วมือที่มีแรงกดน้อย จะช่วยลดแรงเสียดสีบนใบหน้าลงได้ โดยค่อย ๆ ใช้นิ้วกดหรือเกลี่ยเนื้อครีมเบา ๆ ไปทั่วใบหน้าและลำคอ ทาครีมในทิศทางเดียวกันจากล่างขึ้นบน และไม่ควรนิ้วมือวนหรือเกลี่ยเป็นวงกลม เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้

ลงสกินแคร์จากเนื้อเบาไปจบที่เนื้อหนัก

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีสกินแคร์หลายตัว แนะนำให้ลงครีมเนื้อเบาก่อนแล้วไล่ไปจบที่เนื้อหนัก เพราะเนื้อครีมที่มีความข้นจะไปขัดขวางการดูดซึมของชั้นผิว เมื่อเราทาผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ จะไม่สามารถดูดซึมเข้าผิวได้ และอย่าลืมเว้นระยะในการลงผลิตภัณฑ์แต่ละตัว รอจนรู้สึกว่าผิวแห้งดีประมาณหนึ่งแล้วค่อยลงตัวถัดไป

สรุป

มอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้ง และปรับปรุงสภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวและใช้อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด อย่างไรก็ตามสาว ๆ ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์หลังการล้างหน้าเสมอ และหากต้องการออกไปที่มีการสัมผัสแสงแดด ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงแดดอีกด้วย แม้ว่าบางคนอาจจะมีครีมกันแดดอยู่แล้ว แต่มอยเจอร์ไรเซอร์ก็ยังเป็นไอเท็มที่สำคัญไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวดูดีและมีชีวิตชีวาตลอดเวลา