
การเลือกสีรองพื้นให้เข้ากับผิว ทาแล้วหน้าไม่ลอย ไม่หมองคล้ำ ผิวหน้าไม่เปลี่ยนสีระหว่างวัน เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะรองพื้นที่ดีเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การแต่งหน้าในขั้นตอนที่เหลือดีไปด้วย วิธีเลือกรองพื้นนั้น หลายคนมักคิดว่าแค่เลือกให้เหมาะสมกับสีผิว เพียงเท่านี้ก็แต่งหน้ารอด ไม่ปฏิเสธว่ามันก็มีส่วนถูก แต่มันมีอะไรให้ต้องพิจารณาร่วมด้วยมากกว่านั้นในการเลือกรองพื้น ไม่ว่าจะเป็น เฉดสีผิว และ Undertone ของตัวเอง ความรู้และความเข้าใจเหล่านี้คือตัวช่วยให้คุณผู้หญิงเลือกรองพื้นได้เหมาะกับผิวมากขึ้น ทาแล้วหน้าไม่ลอย ไม่ดรอประหว่างวัน
5 วิธีเลือกรองพื้น เลือกยังไงให้เข้ากับผิว
1. ทำความรู้จักเฉดสีผิวของตัวเอง
เฉดสีผิว คือ สีผิวหนังชั้นนอกสุด ซึ่งเฉดสีผิวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแต่ละช่วงเวลา เช่น หากช่วงไหนทำกิจกรรมกลางแจ้งนาน ๆ เฉดสีผิวจะเข้มขึ้น เมื่อกลับมาใช้ชีวิตที่ไม่ได้อยู่ท่ามกลางแดดจัด เฉดสีผิวจะอ่อนลง นั่นคือปัจจัยทำให้เฉดสีผิวมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หมายความว่าคุณอาจจะไม่ได้ใช้สีรองพื้นสีเดิมไปโดยตลอด มีปรับเฉดบ้างตามสภาพสีผิว ณ ช่วงเวลานั้น ๆ
ซึ่งโดยปกติแล้วสามารถแบ่งเฉดสีผิวออกเป็น 3 เฉดสี ได้แก่ ผิวขาว ผิวกลาง และผิวเข้ม สำหรับเฉดสีผิวมีผลอย่างมากในการเลือกรองพื้น เพราะหนึ่งในเทคนิคเลือกรองพื้นคือต้อง เทียบสีรองพื้น จากเฉดสีผิว ซึ่งการเทียบสีรองพื้นได้ใกล้เคียงเฉดสีผิวจะช่วยให้เนื้อรองพื้นกลืนไปกับผิวหน้า หมดปัญหาหน้าดรอป หน้าลอยระหว่างวัน
2. รู้จัก Undertone ของตัวเอง
หากเฉดสีผิวคือสีผิวหนังชั้นนอกสุดที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามไลฟ์สไตล์ แน่นอนว่า Undertone คือโทนสีผิวแท้จริงที่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่ง Undertone ของแต่ละคนเกิดขึ้นจากพันธุกรรมและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดชีวิต โดยปกติแล้วสามารถแบ่ง Undertone ได้เป็น 3 โทน ได้แก่ Undertone ชมพู (COOL) Undertone เหลือง (WARM) และ Undertone กลาง (Neutral)
หากต้องการทราบว่าเรามี Undertone แบบไหน สามารถทำตามวิธีง่าย ๆ เพียงอยู่ในสถานที่ที่มีแสงธรรมชาติ จากนั้นสังเกตเส้นเลือดใหญ่บริเวณข้อมือว่าเป็นสีอะไร โดยผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นตัวบอกว่าคุณมี Undertone สีไหน
เส้นเลือดใหญ่บริเวณข้อมือเป็นสีเขียวเข้ม หมายความว่าผิว Undertone เหลือง (WARM)
เส้นเลือดใหญ่บริเวณข้อมือเป็นสีน้ำเงินอมม่วง หมายความว่าผิว Undertone ชมพู (COOL)
เส้นเลือดใหญ่บริเวณข้อมือเป็นสีเขียวอมน้ำเงิน หมายความว่าผิว Undertone กลางหรือธรรมชาติ (Neutral)
การทำความรู้จัก Undertone ของตัวเอง มีประโยชน์ต่อการ เทียบสีรองพื้น หากเลือกรองพื้นตรงกับ Undertone จะช่วยให้ใบหน้าสดใส ไม่หมองคล้ำ ไม่มีปัญหากวนใจระหว่างวัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วคนไทยมักมี Undertone ธรรมชาติ (Neutral) ส่วนสาวฝั่งเกาหลีมักมี Undertone ชมพู (COOL)

3. รู้จักเฉดสีรองพื้นแบรนด์เครื่องสำอาง
หากเคยซื้อรองพื้นบ่อย ๆ จะสังเกตว่าบนขวดรองพื้นบางแบรนด์มีตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษกำกับอยู่ ทราบหรือไม่ว่าเบื้องต้นเราสามารถตัดสินใจเลือกสีรองพื้นที่ใกล้เคียงกับสีผิวได้จากตัวเลขและตัวย่อเหล่านั้น โดยตัวเลข 0, 1, 2, 3, 4 นิยมใช้บอกความสว่าง เฉดสีสว่างที่สุดเริ่มต้นจากเลขศูนย์ (0) และไล่ขึ้นจนถึงเฉดสีที่เข้มสุด สำหรับโค้ดตัวย่อภาษาอังกฤษ ได้แก่ C, W และ N เชื่อมโยงมาจาก Undertone ของคนเรานั่นเอง นั่นคือ
C = COOL เหมาะกับคนที่มีผิว Undertone ชมพู
W = WARM เหมาะกับคนที่มีผิว Undertone เหลือง
N = Neutral เหมาะกับคนที่มีผิว Undertone กลางและธรรมชาติ
ข้อดีของการทราบ Undertone ของตัวเอง ทำให้เลือกสีรองพื้นได้แม่นยำขึ้น เพียงสังเกตตัวเลขและตัวย่อภาษาอังกฤษที่อยู่บนรองพื้นแบรนด์นั้น ๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถเลือกเฉดสีรองพื้นให้ใกล้เคียงสีผิวได้แล้ว
4. เลือกรองพื้น 3 เฉดสีที่ใกล้เคียงกับผิวตัวเองที่สุด
เมื่อทราบเฉดสีผิวและ Undertone ของตนเองแล้ว วิธีเลือกรองพื้นให้แมทกับผิวยิ่งขึ้น แนะนำให้เลือกสีรองพื้นจำนวน 3 เฉด มาเปรียบเทียบกัน โดยให้เลือกเฉดสีรองพื้นที่ใกล้เคียงผิวตนเองมากที่สุดมาจำนวน 1 เฉดสี จากนั้นให้เลือกเฉดสีที่เข้มขึ้นกว่าสีผิวมาอีก 1 เฉดสี ตามด้วยเฉดสีที่สว่างกว่าเฉดสีที่ใกล้เคียงผิวอีก 1 เฉดสี รวมทั้งหมดเป็น 3 เฉดสี ซึ่งการเลือกเผื่อไว้นั้นจะช่วยให้ทราบคำตอบอย่างแม่นยำว่ารองพื้นสีไหนใช่สำหรับผิวหน้ามากที่สุด
5. เทียบสีรองพื้น กับสีผิวจริงบนใบหน้า
ขั้นตอนสุดท้ายของการเลือกรองพื้นคือการทดสอบสีรองพื้นบนผิวหน้า เพื่อความแม่นยำควรปาดรองพื้นทั้ง 3 เฉดสีลงบนใบหน้า แต่ละเฉดสีเว้นระยะห่างกันเพียงเล็กน้อย โดยตำแหน่งป้ายรองพื้นคือบริเวณคางหรือสันกราม เพราะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างผิวหน้าและลำคอการทดสอบนี้ทำเพื่อช่วยเลือกสีรองพื้นที่เป๊ะยิ่งขึ้น แนะนำให้ เทียบสีรองพื้น ในที่ที่มีแสงธรรมชาติมากที่สุด
สำหรับสิ่งที่ไม่แนะนำในการเลือกสีรองพื้นคือการทดสอบสีรองพื้นบริเวณข้อมือ เพราะมีโอกาสทำให้ได้สีรองพื้นที่ไม่เหมาะกับสีผิว
การเลือกสีรองพื้นให้เหมาะกับผิวหน้า นอกจากทำให้รองพื้นกลมกลืนกับสีผิวแล้วยังช่วยบอกลาปัญหาหน้าเทา หน้าลอย รวมถึงปัญหาหน้าดรอประหว่างวัน
นอกจากนี้ อย่าลืมเลือกรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น หากเป็นสาวผิวมัน ควรเลือกรองพื้นสูตรไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม หากเป็นสาวผิวแห้ง ควรเลือกรองพื้นที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ .. เพียงเลือกสีรองพื้นที่เหมาะสม คุณก็จะแต่งหน้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น กล้าโชว์งานผิว ไม่ต้องกังวลว่าเมกอัพจะหลุด หรือดรอประหว่างวัน เป็นเจ้าของผิวสวยอย่างมั่นใจ
Comments